ทุกวันที่คุณใช้บัตรเครดิต แบบ RFID คุณกำลังเสี่ยง รู้ตัวมั้ย !!!!

Siambackpack Safe Travel Tips : Electronic Pickpocketing: Are you at risk?

 

 

 

 

 

นักล้วงกระเป๋าแล้วอิเล็กทรอนิกส์  ทุกวันที่คุณใช้บัตรเครดิต แบบ RFID คุณกำลังเสี่ยง รู้ตัวมั้ย !!!! ยิ่งจ่ายไว ยิ่งน่ากลัว อาชญกรรม แบบใหม่ ใน ศตวรรธที่ 21 มาถึงเมืองไทยแล้ว 

 

 

 

 

 

ระวัง การใช้ถือกระเป๋าสตางค์ ที่มีบัตรเครดิต ในการใช้จ่ายในเมืองท่องเที่ยวต่างๆ ที่ยอดนิยม  ยิ่งในยุโรป บอกเลย น่ากลัว T_T 

จาก ในอดีต นักล้วงกระเป๋าคลาสสิกอาจฝึกความคล่องแคล่วของมือ หรือเบี่ยงเบนความสนใจ หรือจะทำในเวลา กลางคืน กับข้อมูลบัตรเครดิตของเหยื่อ . วันนี้ พวกเขาสามารถนำเทคโนโลยี มาจัดการ กับเงินในบัตรเครดิตของนักท่องเที่ยว ได้ง่ายๆอย่างไม่ต้องสงสัย โดยเพียงแค่ผ่านพวกเขาในสถานีขนส่ง สนามบิน หรือ สนามกีฬา ที่จอดรถ เพียงแค่เค้ามีตัว อ่านรหัส อินฟราเรด หรือ RFID Reader ในที่ต่างๆ ในตัว

 

 

เทคโนโลยี RFID คืออะไรและมันคืออะไรใช้สำหรับทำอะไร

RFID นี้เป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิคส์ขนาดเล็กที่ประกอบด้วยชิพสำหรับ En-code ข้อมูล และมีเสาสัญญาณขนาดเล็กที่ใช้รับส่งข้อมูลนั้นๆ ปัจจุบันนี้ RFID เป็นส่วนประกอบสำคัญของอุปกรณ์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นบัตรเครดิต บัตรประชาชน บัตรสมาชิกร้านค้าต่างๆ ชิพทางการแพทย์ที่ฝังในร่ายกายคน หรือแม้แต่บัตรพนักงานในบริษัท

 

RFID chips เป็นสิ่งที่ใส่ไว้ใน Passport, บัตรเครดิตและบัตรการเดินทางอื่นๆ ซึ่งจะถูกอ่านได้ง่ายด้วย RFID Reader ซึ่งมิจฉาชีพ สามารถใช้เครื่องนี้ในการอ่านและ download ข้อมูลต่างๆของเราได้ เช่น ชื่อ, วันเกิด, รูปถ่าย, วันหมดอายุบัตร, หมายเลขบัญชีและข้อมูลสำคัญอื่นๆจากบัตรของเราได้ทันที ซึ่งตัว RFID Reader นี้สามารถอ่านข้อมูลในระยะไกลได้ถึง 3 เมตร กระเป๋า Pacsafe มีระบบ RFIDsafe pocket ออกแบบมาเพื่อป้องกัน RFID readers ที่เข้ามาอ่านข้อมูลบัตรเครดิตหรือ Passport  การชำระเงินแบบไร้สาย ความถี่วิทยุหรือ " RFID " เป็น เทคโนโลยี ที่ง่ายและใช้กันอย่างแพร่หลาย ในความสะดวก เราจะได้ไม่ต้องถือเงิน หลายๆ ที่ใน บ้านเราใช้ อย่างแพร่หลาย ยกตัวอย่างเช่น บัตรทางด่วน pass ต่างๆ, รถไฟฟ้า รถใต้ดิน card, การ์ดเข้าหอพัก คอนโด ห้องเช่า บ้านพักที่มีการใช้ digital doorlock สายข้อมือสำหรับนักกีฬา สายสนาม skylane และสุดท้ายที่สำคัญคือ บัตรเครดิต

 

 

รู้มั้ยว่าระยะการสแกน ยิ่งเข้มข้นสูง ท่านสามารถ อ่านข้อมูลได้ เป็น 100 เมตร ยกตัวอย่างง่ายๆ บัตร อีซี่ ที่ขึ้นทางด่วน ในบ้านเรา

 

 

 

ปัจจุบันบัตรเครดิตในไทยส่วนใหญ่ไม่ได้ใช้เทคโนโลยี RFID ครับ จะมีก็แต่พวกบัตร Visa Paywave ซึ่งก็มีแค่บางธนาคารเท่านั้น หากบัตรที่เราใช้ไม่ได้ใช้เทคโนโลยีนี้ก็ไม่จำเป็นต้องไปหามาใช้หรอกครับ สังเกตง่ายๆครับ ถ้าบัตรเครดิตของเราสามารถ "แตะจ่าย" เหมือนบัตรเซเว่น หรือบัตรแรบบิต นั่นล่ะครับใช้เทคโนโลยี RFID แต่ถ้าต้องรูดกับเครื่องเท่านั้น "แตะจ่าย" ไม่ได้ ก็คือไม่มีเทคโนโลยีนี้ในบัตรเรา

 

ที่นี้ ถ้าใช้แล้วมีวิธี ป้องกันได้ง่ายๆ คือ หา อุปกรณ์ ป้องกัน หรือ "กระเป๋าป้องกันการโจรกรรม” ที่มีหน้าตาเหมือนกับกระเป๋าทั่ว ๆ ไป แต่สามารถป้องกันการโจรกรรมจากเครื่อง RFID scanner ได้ คุณสามารถหาได้ตามเว็บไซต์ต่าง ๆ เช่น Siambackpack  เป็นตัน